หน้าฝน ใครว่าเที่ยวไม่ได้ หน้าฝนแบบนี้เราควรไปนอน พักสมอง กับบรยยากาศธรรมชาติๆ ลมเอื่อยๆ เย็นๆ และสายน้ำ
ทริปนี้จะพาไปพักผ่อนแบบ ชิลๆ กันริมน้ำ ที่ River Tales ลานกางเต็นท์ริมน้ำแก่งกระจาน
เค้าว่าที่นี่จองยาก เพราะคิวเต็มตลอด เต็มยาวๆ เลยแกร
ไปดู Clip กันก่อนได้ที่ https://www.facebook.com/ties.tie.3/videos/a.1529912053759008.1073741845.100002206846726/1531839436899603/?type=3&theater
Facebook : https://www.facebook.com/rivertales.keangkrachan/
แต่เราจองได้อ่ะ 555555 ใครอยากไปก็ลองดูใน Page ที่พักก่อนละกัน เค้าจะแจ้งกติกาเอาไว้
เริ่มกันเลยละกัน
ที่พักของเราในทริปนี้ เป็นศาลาริมน้ำ เพื่อการพักผ่อนแบบได้อรรถรส จึงไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ ทั้งสิ้น
เราติดต่อกับที่พัก เสร็จแล้ว ในราคา 900 บาท ได้ศาลาที่ชื่อว่า ไผ่ศรีสุก 1
พอเราทำการจอง โอนเงินเสร็จเรียบร้อย ให้เราแจ้งชื่อกับที่พัก แล้วเค้าก็จะให้ข้อมูล เรื่องการเดินทางต่างๆ และการติดต่อมา
พอใกล้ๆ วัน เค้าก็จะมีเตือน และย้ำกับเราอีกครั่งกันเราหลงทาง 55555 ก็ใส่ใจลูกค้าดีนะ
การเดินทาง :
ให้เราปักหมุดใน GPS ไปที่โรงพยาบาลแก่งกระจาน หรือไปรษณีย์แก่งกระจานก่อน ทางเข้าจะอยู่ถัดจากไปรษณีย์เล็กน้อย จะเจอป้ายรีสอร์ทเยอะๆ เราสามารถซื้อพวกหมู ไก่ มาทำกินได้ มีขายแถวทางเข้า
เอาแผนที่มาฝากด้วยจ๊า
ก่อนอื่น เราไปทำความเข้าใจกับ กฏกติกา การเข้าพักกันก่อนดีกว่า
แต่ตอนแรกที่เราจอง เราถามเค้าว่า เอาน้องหมาไปได้มั้ย เค้าบอกว่าได้นะ แต่ตอนนี้เปลี่ยนกฏแล้ว อืมๆ
เดี๋ยวเราจะพาไปดูกับที่พักของเรากันก่อน
ระเบียงริมน้ำไผ่ศรีสุก 1
เป็นระเบียงริมน้ำที่ด้านหน้ามีแม่น้ำเพชรบุรีไหลผ่าน มีอ่างน้ำธรรมชาติด้านหน้า สำหรับแช่น้ำเล่นหรือให้เด็กๆเล่นน้ำได้ ทุกระเบียงริมน้ำของริเวอร์เทลติดน้ำทุกหลัง ราคาคืนละ 900 บาท
พักได้ 2 ท่าน เพิ่มเติมท่านละ 100 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 10 ขวบพักฟรี (ราคานี้ถึงเดือนตุลาคม 2560เท่านั้น ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนราคา 1,200 บาท)
สิ่งอำนวยความสะดวก
-ผ้าม่านกันน้ำได้ปิดได้รอบด้าน
-ที่นอนแบบฟูกขนาด 5 ฟุต
-หมอน 2 ใบ
-ผ้าห่ม 1 ผืน
-โต๊ะ
-มุ้งกระโจม
-พัดลมติดเพดาน
-ปลั๊กไฟ 2 ช่อง แบบ 2 ตา
-ก๊อกน้ำ 1 จุด
-ห้องน้ำรวม
-Free Wifi
-ไม่มีอาหารเช้า
-ประกอบอาหารได้ (ลูกค้านำอุปกรณ์มาเอง)
ไปดูที่พักกัน (ยืมรูปมาจาทางเพจ)
เป็นไงล่ะ น่าพักอ่ะดิ น่าไปนอนเฉยๆ ไม่ต้องนอนโง่ ก็ได้ แค่นอนเฉยๆ ดูน้ำไหลไปเรื่อยๆ ก็พอ
------------------
เมื่อเราไปถึงที่พักแล้ว จะมีพี่เจ้าของมาต้อนรับ แล้วพาเราไปยังที่พัก ที่เราจองเอาไว้
บรรยากาศดี ไม่ใหญ่มาก ที่จอดรถน้อยไปนิส ตอนเราไป เหมือนว่าเค้ากำลังขยายที่ เหมือนจะสร้างเพิ่มแต่ไม่ใช่โซนริมน้ำ
ไปดูสภาพจริงๆ กันบ้างดัีกว่า
บรรยากาศร่มรื่น ติดริมน้ำ มีลมเอื่อยๆ
นี่คือที่นอนเราเอง เป็นฟูก โครตปวดลังบอกเลย 555
หมอน 2 ใบ ไม่ต้องถามว่านอนกะใคร
พัดลม และมุ้ง ขอบอกว่า มุ้งสำคัญมาก ตอนกลางคืน แมลงอย่างเยอะอ่ะ โอ้โหหหเลย
แล้วเราก็มานอนเอื่อยๆ อืดๆ
พาไปเดินรอบๆ กันบ้าง คงไม่ค่อยมีอะไร เพราะที่นี่เล็กๆ ก็มีโซนให้เล่นน้ำ นิดหน่อย
ใกล้ชิดธรรมชาติขนาดไหน ตอนแรกไปเจอน้อง(เหี้ย) แวะมาทักทาย เลยจ๊า หลังจากนั้นก็หลอนมาโดยตลอด กลัวว่าเล่นน้ำไป น้องจะว่ายมาเล่นด้วย เท่านั้นไม่พอ ในสมองยังเกรงว่า น้องจะพา บรรดา พ่อ แม่ พี่น้อง มาทักทายด้วยหรือเปล่า อีเวรเอ้ยยยยย
ท้องฟ่าโปร่งๆ กับแดดอ่อนๆ อ่อนกว่าเที่ยงวันนิดนึง
บ่อน้ำของห้องเราเอง
ตะไคร่น้ำเยอะดี เอาตีนเขี่ยๆ ถูๆ ให้มันสะอาด แล้ว ค่อยเล่นจะดีกว่าน้าจ้า
ถามว่าได้ลงแม่น้ำมั๊ย ตอบเลยว่า ไม่!! กลัวเจอน้องมาว่ายน้ำข้างๆ
มีโซนพักผ่อน ให้เรามานอนเล่น ถ่ายรูปเกร๋ๆ กันด้วย
นั่งไป กลัวน้องไป แต่บรรยากาศดีสุดๆ ไม่ร้อนเลยอ่ะ
โซนหน้าห้องเราเอง ชิลพอมั้ย
เล่นไปเล่นมา ฝนตกเฉย ก็ได้อีกฟิลลลลลล
พอค่ำๆ ถามว่าจะกินอะไร ?? ด้านบนมีจำหน่ายอาหารชาวบ้าน เมนูไม่เยอะมาก แต่โครตอร่อย ต้องกินจริงๆ ทุกอย่างคือ แซ่บบบบบบบ
อ้อ มีเช่ากระติกน้ำแข็งด้วยนะ มัดจำ 300 ค่าเช่า 20 เอง ดีกว่าไปซื้อกล่องโฟมข้างนอก ตั้ง 60 แนะ
อาหารในค่ำคืนนี้ของสองเรา มันจะฟินอะไรกว่า การนั่งกินข้าว กับบรรยากาศดีๆ ริมน้ำ และน้องแมลงต่างๆ ที่พากันมาอยู่ด้วยกับเรา
อันนี้พีคมาก ตอนแรกคิดว่าไม่อร่อย พอกินเข้าไปเท่านั้นแหละ โอ้โหหหหห อีดอกอร่อยสุด
ยำผักกรูด ผักกรอบๆ กับความแซ่บ เผ็ชร้อนของน้ำยำ และบรรดากุ้งสดๆ
ไข่เจียวเศษกุ้ง
ต้มตีน น้ำแซ่บๆ กับตีนเปื่อยๆ สวรรค์สัสๆ รสชาติแซ่บซี๊ดจากปลายลิ้น สู่ปลายตีน
พออิ่มแล้ว ค่ำคืนนี้ ก็มานอนดูแสงจันทร์กันนะ
จะบอกว่า ตอนนอนแม่งปวดหลังฉิปหาย แมลงก็เยอะ แต่มันได้ฟิลธรรมาติ ไง นอนแล้วก็ต้องระแวง เผื่อน้องแอบปีนมาหา มันก็ดีไปอีกแบบ เหมือนมาพักผ่อน ที่ไม่ได้พักผ่อนอ่ะ 55555
------------
ตื่นเช้า มาสูดอากาศบรีิสุทธิ์ ก็พบว่าน้ำแห้ง!!!!! เพราะเขื่อนปิด พอเริ่มสว่างน้ำก็จะค่อยๆ มาจนเต็มเหมือนเดิม เราสามารถเดินไปเกาะกลางได้เลย (ไม่ได้ถ่ายรูปมา เพราะมันมึด)
สำหรับอาหารเช้า แนะนำให้ขับออกไปข้างนอก ไปกินโจ๊ะ อีป้า กับ ปาท่องโก๋ ที่แม่งโครตอร่อย
ทีเด็ดอยู่ที่ความบาง กรอบ กินตอนร้อนๆ โอ้โหหหห ฟินโครตเลยจ๊าาา
น้ำเต้าหู้ก็อร่อยนะ
โจ๊กอีป้า
พออิ่มแล้ว เราก็ไปเล่นน้ำกัน ต่อจ้า
เล่นชิงช้าแบบ Slow
เอ้าพออออออออออออ 55555
กลับบ้านละ
------
หากถามว่า รวมๆ แล้วเป็นยังไง
บอกได้เลยว่า ก็ดี ห้องน้ำแย่ไปหน่อย ไม่กล้าเข้า เป็นคนที่ซีเรียสเรื่องห้องน้ำมาก มันทำใจยากอ่ะ 555 แต่เค้ากำลังสร้างใหม่นะ
อาบน้ำตรงไหน
บอกเลยว่า ไม่ได้อาบในห้องน้ำ เค้ามีผักบัวด้านนอก เหมือนสระว่ายน้ำให้ด้วย แล้วก็มีอ่างล้างหน้าแปรงฟัน
ได้เล่นน้ำมั้ย นอกจากบ่อหน้าที่พัก ก็ไม่ได้เล่นที่อื่นอีกนะ น้ำมันแรงอ่ะ ต้องเช่าชูชีพ จากที่พัก แต่ถ้าเล่น เราก็ไม่รู้จะเกาะกับอะไรอ่ะ ให้ลอยไปเรื่อยๆ จนออกแม่น้ำหรอ 555555
สรุป 900 ก็เกือบแพงไปสำหรับเรา เพราะทีนี่ได้แค่บรรยากาศอย่างเดียว แค่อยู่ติดริมน้ำเท่านั้น เท่านั้นจริงๆ สวยไหม เฉยๆ 900 บาท กับ ห้องน้ำรวม 4 ห้อง ไม่มีทีวี ตู้เย็น เตียง มันก็รับได้นะราคานี้
แต่เห็นว่าเค้าจะขึ้นอีก ถ้าราคาเกินนี้เราว่าแพงไป
อาหารอร่อย เรื่องการบริการ เฉยๆ อ่ะ ก็แค่มาต้อนรับแล้วก็จบกัน wifi ตอนเช้าไม่เปิดอ่ะ 5555
ทริปนี้ง่ายๆ มาไว ไปไวจ๊า
ตลาดชิลๆ ที่กำลังมาแรงมากๆ ในช่วงนี้ก็ต้องไม่พลาดกับที่นี่ "ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน" จังหวัดสิงห์บุรี ตอนนี้เรียกได้ว่าเป็น Unseen Thailand แห่งใหม่เลยก็ว่าได้ ซึ่งตลาดแห่งนี้ตั้งอยู่ใน วัดโพธิ์เก้าต้น-อนุสาวรีย์ค่ายบางระจัน อ.ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี
ที่นี่เค้ามีกิจกรรมมามายที่น่าสนใจ ตลาดขายสินค้าพื้นบ้าน การจับจ่ายตลาดแบบไทยๆ ในสมัยโบราณ มีการแบกเสลี่ยงพาชมรอบตลาด พ่อค้า แม่ค้า ก็ยังแต่งชุดไทยสมัยบางระจันกันทุกร้าน และยังมีชุดไทยให้เราเช่ากันอีกด้วย อีกสิ่งหนึ่งที่เรียกได้ว่าที่นี่เค้าใส่ใจในรายละเอียดมากๆ คือการใช้คำพูดเพราะๆ เหมือนสมัยก่อน "รับอะไรดีขอรับ , เจ้าค่ะ" และยังมีการแสดงจากเด็กๆ อีกด้วย
การเดินทางก็ไม่ยากอย่างที่คิด ถ้าเรามาจากกรุงเทพ ให้ใช้ถนนสายเอเชีย (No.32) ผ่านอยุธยา แล้วให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ตัวเมืองสิงห์บุรี ข้ามสะพานแม่น้ำเจ้าพระยา แล้วเลี้ยวซ้ายไปตามถนนหมายเลข 3032 ตรงไปที่อำเภอค่ายบางระจัน ขับมาตามทางเรื่อยๆ เท่านี้ก็ถึงแล้ว ไม่ต้องกลัวหลง เพราะเค้ามีป้ายบอกตลอดทาง มาได้ง่ายๆ ชิลๆ
เมื่อเรามากันถึงแล้ว ก็ได้เวลาของเหล่านักแดกทั้งหลายที่ต้องบอกว่า ไม่ควรพลาดอย่างแรง ที่นี่มีทั้งอาหารคาวหวาน ขนมหวานเยอะแยะมากมาย ขนมโบราณ รับรองฟินแน่นอน เหมือนได้ย้อนเวลามาในสมัยโบราณ
เมื่อก้าวเข้ามาก็รู้สึกได้ถึงความร่มรื่น มีต้นไม้สูงๆ ใหญ่ๆ ตลอดทางปกคลุม เดินสบายๆ ไม่ร้อนเกินไป แถมเข้ากับฟิลโบราณด้วย เพราะมีเศษซากสมันก่อนหลงเหลืออยู่บ้าง
เราจะเจอป้อม อันใหญ่ๆ อันนี้เราสามารถเดินขึ้นไปถ่ายรูปด้านบนได้ แต่เราไม่ขึ้นเพราะขี้เกียจ
นอกจากจะมีตลาดแล้ว ที่นี่ยังมีพิพิธภัณฑ์เหล่าวีรบุรุษให้เราได้ศึกษา หรือเรียนรู้เกี่ยวกับ วีรกรรมของเหล่าคนบางระจัน
จุดนี้เป็นจุดที่ให้ปล่อยปลา
เราอาจจะไม่อินกับการทำบุญ แต่เราอินกับการแดกนะ งั้นเราควรจะเข้าตลาดได้แล้วล่ะ ของแดกรออยู่จ๊าา
ตอนแรกเดินเข้ามา แม่งร้างปะวะ ทำไม ทางนี้ของมันน้อยๆ
อ่อ เดินเข้าผิดฝั่ง 55555 นี่มันหลังตลาด
เริ่มเดินหาของแดกกันได้แล้วจ๊าาา เริ่มกันที่ปลาเผาบ้านระจัน
สำหรับคนที่ห่วงแดก ไม่ต้องกลัว เค้ามีที่สำหรับให้นั่งแดกได้ แต่นั่งแดกมันไม่ได้ฟิลอ่ะ ต้องเดินแดกไปเรื่อยๆ นี่สิคนจริง
อยากจะให้ลองแดก เหมือนกู กับเมนูนี้ ข้าวหมาก
ด้วยความที่กูไม่รู้ไงว่าข้าวหมาก คืออะไร ในหัวของกูคือ แม่งต้องเหมือนข้าวเหนียวมูล หวานๆ มันๆ อร่อยแน่อีดอก กูก็ถามอิแม่ค้าไปว่า
กู : แม่ค้าจ๊ะ อันนี้รสชาติมันเปนไงอ่ะ
แม่ค้า : ก็ต้องลองดูนะ
กู : มันเหมือนข้าวเหนียวมูลปะ
แม่ค้า : ไม่เหมือนจ๊า ลองดู
กู : มันจะอร่อยปะ
แม่ค้า : อร่อยจ้า บางคนก็เรียกว่าข้าวเมานะ (กูก็คิดว่า ข้าวเมาคือสำเนียงสมัยก่อนแน่ๆ) อีดอก เดี๋ยวมึงรู้เลย
กูเลยหันไปถาม คนที่มาด้วยกัน มันอร่อยปะ แม่งบอก ลองดู (เหมือนอิแม่ค้า)
กูก็เลย เออลองก็ได้ จ่ายเงิน แกะฝา
แล้วคนข้างๆ นี่บอกว่าไรรู้มะ เราว่าเทอกินได้แค่คำเดียว
กู : ทำไม ไม่อร่อยหรอ
G : เออ เชื่อดิว่าคำเดียว
เมื่อกูตักเข้าปากเท่านั้นแหละ อีเหี้ยเอ้ยยยย กูสรรหาคำบรรยายรสชาติของมันไม่ได้เลย แหยะๆ ขนลุกๆ เย็นๆ เหม็นๆ อีเหี้ยเหล้าขาวหมัก กูก็ อื้อๆๆๆๆๆๆ ไม่แดกแล้ว
แม่ค้า : อร่อยมั้ยจ๊ะ รสชาติเป็นไง
กู : หน้าเสีย // ก็ .... อธิบายรสชาติไม่ได้เลย แต่ก็ไม่ได้แย่นะ พร้อมฝืนทำหน้ายิ้ม
G : ขำกู แล้วบอกว่า เห็นมะบอกแล้วว่าเทอกินได้คำเดียว
กู : พาเค้าไปกินน้ำเดี๋ยวนี้ ต้องกลั้วปาก จะไม่ไหวแล้ว เร็ว // พร้อมดึงตัวไปร้านน้ำด้วยความไวแสง
กู : แม่ง แดกกันไป้ได้ไงวะ โอ้โห รสชาติสะพรึงมาก
G :แหมต่อหน้าแม่ค้าทำยิ้ม กลั้นรสชาติสุด เกรงใจแม่ค้าหรอ
กู : เออ สิ ลองบอกว่า รสชาติเหี้ยมากๆๆๆๆ แม่ค้าคงหยิบด้ามมีดไล่ฟัน มั้ย ดีนะ 15 บาท ถ้าแพงกว่านี้คงร้องไห้ 555
ลืมๆ ไส้อั่วของนางอร่อยมากกกกกกก ไส้แน่น ห้อม หอมมม
แม่ค้าขายน้ำสมุนไพรผู้ช่วยชีวิตลิ้น ในการแดกข้าวหมาก
นางน่าร๊ากกก มากก บอกว่าขอถ่ายรูปได้มั้ยจ๊ะ นางเดินดิ่งออกมาหน้าร้านยืนโพสท่าให้เลยจ๊าาา
นางขายน้ำอัญชัญ กับกระเจี๊ยบ
ชื่นใจเวอร์ หอม หวาน คือดีอ่ะ สนชื่นเว่ออออออ
ขนมถ้วยฟู อันนี้ก็น่ากินนนน
แวะถ่ายรูปแปปป
พอเริ่มเข้าช่วงบ่าย คนเริ่มมากันเยอะขึ้นแล้ววว คึกคักดี
นี่ๆๆๆ อันนี้เห็นคนต่อคิวซื้อเลยนะ แม่งต้องอร่อย แต่นี่ไม่ได้แดกไง มันจริงจังเกินไป
นี่เป็นเด็กในตลาดนะ ลูกของแม่ค้าที่นี่เค้าก็ให้ใส่ชุดไทยสมัยบางระจันด้วย เพื่อความสมจริง และมันเป็นอะไรที่คนที่นี่เค้าใส่ในทุกรายละเอียด ไม่ใช่แค่แบบชุดไทยสมัยก่อนอะไรก็ได้ ที่นี่ต้องสมัยบางระจันเท่านั้น
ดอกบัวที่นี่สวยอ่ะ
เดินหาของแดกกันต่อไป
ตอนแรกเดินผ่านแม่ง เอ๊ะ!! ถึงกับต้องถอยมาดู นึกว่าจะมียาดองขายซะแล้ววววว 5555
ชอบความคิดของคนที่นี่มาก เค้าเป็นในแนวทางเดียวกันดีนะ ของตกแต่งเล็กๆ น้อยๆ ยังทำมาจากไม้ หรือของที่คนในสมัยก่อนใช้กันจริงๆ
เดินมาเรื่อยๆ ในตลาดไม่ได้มีแต่ของแดกนะ เค้ามีการตีดาบโชว์ ให้ดู แบบเออแม่งเหมือนในหนังเลยว่ะ
หอยครก มายืนๆดู เออน่าแดกว่ะเลยสั่ง ยืนรอแปปนึง ตาเหลือบไปเห็น ....
ป้ายนี้ คนท้องท้านฟรี คนพิการทานฟรี ไม่มีเงินทานฟรี แล้วเป็นตุ๊ดทานฟรีมั้ยคุณพี่ 555
นางขำ 55555
นี่ก็ถามอีก ไม่มีเงินกินฟรีจริงปะ
นางก็บอกว่าฟรีจ๊าาา กูเลยบอกว่า อ่อไม่มีเงินอ่ะ ฟรีปะ
นางไม่ตอบกูเลยจ๊า อีดอก 55555 แต่อร่อยอยู่นะ เข้าไปแซวนางได้
มันแบบว่า กรอบมากกกก ขนาดที่ใส่น้ำจิ้มยังเป็นใบตองเลย เห็นมะทุกร้านที่นี่เค้าเก็บทุกเม็ดจริงๆ
เจอขนมไข่เหี้ย หน่อยเปนไงงงงง แค่เห็นรูปเหี้ยก็สะดุดตาแล้ว
มาถึงคนนี้ นางแบบฮามาก นางเห็นกูถือกล้องใช่ปะ นางบอกมาถ่ายป๊าหน่อยสิจ๊ะ แหมคนสวยอย่างป๊าเนี่ยต้องถ่ายเยอะๆ นะ กูก็เดินเข้าไปถ่ายนาง นางมีการบอกอีกว่า "ห้ามลบนะ" 55555
ปลาตะเพียนต้มเค็ม อันนี้อยากให้ลอง หาร้านอร่อยๆ ยากมาก
ขนมเด็กๆ สมัยยุค 90 จะให้เด็กสมัยนี้กินหมาก ก็คงไม่ใช่อ่ะ
เจอขนาดลูกชิ้นอันนี้ตายห่าไปเลย ถ้าซื้อมาแดก คงไม่ต้องแดกอะไรกันแล้ววันนี้
ถ้าเดินจนเมื่อยแล้ว หรืออยากจะนั่งพักแดกอะไรซํกหน่อย ก็มีจุดให้นั่งเล่น ข้างๆ ลำน้ำ มันเย็นสบายดีจริงๆ
การตกแต่ง ที่นี่ มันเป็นอะไรที่ลงตัว เหมือนอยุ๋ในหนังบางระจันจริงๆ ที่ไม่เหมือนคือไม่มีสงคราม ถ้ามีกูก็ไม่มาจ๊าาา
ดูไปดูมาแม่ง เหมือนบ้านแม่นาก เวอร์ชั่น ทรายแสดงเลยว่ะ 55555
ตรงจกลางตลาดยิ่งคึกคัก เพราะจะมีชาวบ้านแต่งชุดบางระจัน เดินขบวนให้เราได้ถ่ายรูป และยังมีการทำบุญ เพื่อถวายวัดอีกด้วย เที่ยวแบบนี้มันก็โอเคเลยยยย
พักแปป แก่แล้วเหนื่อย
หมาตัวเท่าควาย
ต้องบอกว่า ร้านนี้ต้องแดก จริงๆ!!!!
นกก๋วยจั๊บกะลา
ตอนแรกก็ลังเลจะแดกดีมั้ยน๊าา ก็ไปยืนๆ ดู ละแบบ เชี่ย น่าแดกว่ะ แม่งยูนีค
ชอบร้านอาหาร อะไรที่แบบไทยๆ แบบนี้ดูออริจิดี
สั่งแล้ว ก็เดินเข้าไปแดกที่แคร่ด้านในจ๊า
เครื่องปรุง
นี่ก็เครื่องปรุง กับแคปหมู
น่ารักดีอ่ะะ ชอบบบบ
แม่ง โครตอร่อย ให้เยอะมาก ดูเหมือนถ้วยจะเล็กนะ แต่เครื่องนี่แน่นลืม รสชาติแม่งโอ้โห กูไม่ต้องปรุงก็อร่อยเว้ย ปกติกูต้องปรุงทุกอย่าง อันนี้ไม่ต้องจ๊าาา เด็ดมากบอกเลย
ราคาแค่ 25 บาท อีเหี้ย จะถูกไปไหน
ปล. ไม่ได้ให้กะลานะ ถ้าจะเอา 50 บาท
นั่งแดกแบบเพลินๆ ลมเย็นๆ แบบแดกเสร็จ ละอยากทิ้งตัวลงนอนแม่งตรงนั้น
ราคาเบาๆ สบาย ท้อง
อร่อยจริง ต้องเชื่อกู
อันนี้ก็น่าแดก หมูย่างสมุนไพร แต่แม่งมาซื้อไม่ทันหมดก่อน เซ็งมาก
น่าแดกปะ
การแสดงของเด็กๆ ก็ช่วยๆกันนะ สนับสนุนดนตรีไทย
ขนาดขนมหวาน ยังทำขนาดนี้
ชุดไทย อันนี้ขาย น่ารัก อยากได้ แต่คนข้างๆไม่ให้ซื้อ เซ็ง
ที่สำหรับเซียนพระ
นี่งายยย เราไปถ่ายรูปกับเค้าได้นะ
เมื่อเดินแดกกันทั่วตลาดแล้ว เราก็ไปส่วนอื่นๆกันบ้าง
ได้ฟิลสมัยก่อนปะล่ะ ถ้าเดินกลางคืนนะเมิ้งง อย่างหลอน
ความเก่าแก่ของหมู่บ้านระจัน
โซนนี้จะเป็น โซนไว้กราบไหว่ ตั่งต่าง
ความร่มรื่นนี้ ชอบมาก ที่เที่ยวแบบที่มีต้นไม้เยอะๆ
ก่อนกลับเราสามารถแวะไหว้พระกันได้นะ
ตอนแรกก็แบบ ยืนอยู่ข้างหน้า ถ่ายรูป ละก็นิ่งกันทั้งคู่ ไม่มีใครเดินเ้ข้าไป ละกันมามองหน้ากัน เราจะเข้าไปดีปะ 5555
กู : เราควรอยู่ข้างนอกก็พอ อย่าเอาคลบาปอย่างกูไปแปดเปื้อนเลย 55
สระน้ำ ของบ้านระจัน
จบแล้วอ่ะ 5555
เออที่นี่แม่งดีว่ะ ดีจริงๆ ชอบที่นี่ มันเหมือนได้ย้อนเวลามาจริงๆ อย่างให้ได้มากันสักครั้ง และอยากให้ที่นี่รักษาภาพลักษณ์ และคุณภาพ ความโบราณนี้เอาไว้ เราว่ามันเป็นอะไรที่ดีมาก
ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน เปิดให้บริการวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกต์ที่อยู่ติดกับเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-16.30 น. ไม่มีค่าเข้าชม มีสถานที่จอดรถกว้างขวาง รองรับได้ประมาณ 500 คัน สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน หรือสอบถามได้ที่คุณนุกูล โปรยเงิน สมาชิกกลุ่มอาสาจัดตั้งตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน โทรศัพท์ 09 1765 6566
วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ถ้าอยากออกไปหาที่เที่ยวผ่นคลาย ก็ลองไปเที่ยวชมตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน จังหวัดสิงห์บุรีกันนะคะ ได้ทั้งเที่ยว กิน ช้อปปิ้ง และไหว้พระทำบุญ คุ้มขนาดนี้ อย่าพลาดเชียว :)